10 ลักษณะเหมือนกันระหว่างคริสเตียนขวาจัดกับมุสลิมสุดโต่ง
เมื่อประเทศสหรัฐอเมริกา ต้องเผชิญกับเหตุกราดยิงครั้งใหญ่ พลเมืองที่ชอบเหยียดหยามผู้อื่นของเราก็มักจะคอยท่าแทบหยุดหายใจเพื่อจะดูว่า คนยิงเป็นคริสเตียนหรือมุสลิม?
คำตอบที่ได้ก็มักจะเป็นตัวกำหนดทิศทางของบทสนทนาในสังคมจนกว่าจะมีเหตุกราดยิงครั้งใหม่เกิดขึ้นอีก ถ้าคนยิงเป็นคริสเตียน ฝ่ายขวาก็จะพยายามอฺธิบายภาพคนยิงว่าเป็นพวกคนบ้าที่โดดเดี่ยวตนเองออกจากสังคม ซึ่งคนพวกนี้จัดการได้หากเราอนุญาตให้คนในสังคมถือครองปืนได้มากขึ้น ในขณะที่ฝ่ายซ้ายจะพยายามชี้ให้เห็นถึงอุดมการณ์ทางการเมืองของคนยิงและการที่สื่อฝ่ายขวาอาจมีอิทธิพลบางอย่างต่อเขา พวกเขาจะพยายามประเมินผลกระทบของกฎหมายการถือครองอาวุธปืนเสียใหม่ด้วย แม้จะไม่สำเร็จก็ตาม
มีเหตุผลหนึ่งที่ฝ่ายขวามักพยายามอย่างมากที่จะต่อต้านมุสลิม นั่นคือ อุดมการณ์ขวาจัดดำรงอยู่บนฐานของการกีดกันมาอย่างยาวนาน พวกนี้จะข่มเหงรังแกกลุ่มเป้าหมายต่างๆ ซึ่งดูเหมือนมีหลากหลายกลุ่มแต่ในความเป็นจริงไม่ใช่อย่างนั้น กลุ่มที่เป็นเหยื่อหลัก ๆ ก็คือ ใครก็ตามที่ไม่ใช่คนผิวขาว ไม่ใช่ผู้ชาย ไม่ใช่คนจากประเทศเดียวกัน และไม่ใช่คริสเตียน (ในอดีตก็พวกโปรแตสแตนท์) จะถูกเหมารวมว่า “เป็นอื่น” ผู้หญิงบางครั้งมักถูกกีดกันและบางคราวก็ถูกกดขี่ คนผิวสีในทัศนะของพวกอนุรักษ์นิยมคือ พวกชนชั้นล่างถาวร กลุ่มเพศทางเลือก (LGBT) ก็ควรจะเก็บเนื้อเก็บตัวและสะกดรสนิยมทางเพศเอาไว้ใต้ร่มผ้าอย่างที่เคยเป็นในทศวรรษ 1950 พวกขวาจัดจะบอกว่า พวกมุสลิมพยายามจะฆ่าเราทั้งหมดให้ตาย
เราต้องหยุดเล่นเกมนี้ได้แล้ว เราต้องหยุดทำเหมือนว่า อุดมการณ์ขวาจัดของคริสเตียนและอุดมการณ์อิสลามหัวรุนแรงนั้นไม่เหมือนกัน เพราะทั้งคู่นั้นเหมือนกัน ทั้งคู่เป็นอุดมการณ์ขวาจัดนั่นเอง
พวกคุณหลายคนอาจจะกำลังคิดว่า ถ้าเช่นนี้ชาวคริสเตียนส่วนใหญ่ก็คงจะออกล่าหัวผู้คนเพื่อจะได้เป็นข่าวและขึ้นอันดับในยูทูป ไม่หรอก ไม่ใช่อย่างนั้นเลย ชายชาวคริสเตียนผู้โกรธแค้นไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมกับหน่วยก่อการร้ายผู้คิดไม่ซื่อต่อประเทศชาติ เพราะพวกเขามีกองกำลังทหารที่ก้าวหน้าและยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกต่างหาก รัฐบาลของพวกเขาจะหยิบยื่นปืนให้พร้อมกับ อ้างวรรคหนึ่งในคัมภีร์ไบเบิลเพื่อจะบอกว่า พวกเขาสามารถใช้ปืนนี้เพื่อจัดการกับมุสลิมคนใดก็ได้แล้วเดินจากมาอย่างวีระบุรุษ ไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย
เราไม่ได้กำลังบอกว่า กองกำลังทหารทั้งหมดประกอบสร้างมาจากประชากรชายชาวคริสเตียนที่โกรธแค้นและต้องการฆ่ามุสลิม นั่นคงไม่ต่างอะไรกับการกล่าวว่ามุสลิมทุกคนก็กำลังออกปฏิบัติการเพื่อฆ่าคนชาติตะวันตก แน่นอนว่า การเหมารวม (Generalizations) เป็นกระบวนการคิดที่อันตราย แต่หากเราลองทำความเข้าใจทัศนคติและจุดยืนของผู้ชายคริสเตียนที่โกรธแค้น แล้วเปรียบเทียบกับพวกมุสลิมสุดโต่ง เราจะเห็นข้อแตกต่างเพียงน้อยนิดเท่านั้น
เป็นเวลาหลายศตวรรษแล้วที่การก่อการร้ายกลายเป็นอาวุธของคนที่ไร้อำนาจ ในขณะที่คนมีอำนาจมีกองทัพ ในทุก ๆ วัฒนธรรม จะมีผู้คนจำนวนมากที่คิดว่าอุดมการณ์ของตนยิ่งใหญ่พอที่จะฆ่าผู้อื่นและตายแทนได้เพื่อรักษามันไว้ แต่ตอนนี้อุดมการณ์ที่กำลังกระตุ้นให้ผู้คนลุกขึ้นมาฆ่ากันไม่ใช่เพื่อความเป็นธรรมทางสังคม ไม่ใช่เพื่อสิ่งแวดล้อม แม้จะมีองค์ประกอบบางอย่างเกี่ยวพันกับความเป็นธรรมธรรมทางเศรษฐกิจ แต่ข้อกล่าวหาการก่อการร้ายส่วนใหญ่มักจะตกอยู่กับคนที่ไม่มีอำนาจ
แต่เราลองมาดูรายละเอียดบางอย่างกัน:
1. ทั้งคริสเตียนขวาจัดและมุสลิมสุดโต่งต่างอ้างว่า ตนเคร่งครัดต่อคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ในศาสนาของตน แต่ต่างก็ละเลยบทบัญญัติเกี่ยวกับความรักและการยอมรับซึ่งกันและกันและเลือกหยิบเฉพาะบทบัญญัติที่ทำให้ตนรู้สึกเหนือกว่าผู้อื่น
2. ทั้งคริสเตียนขวาจัดและมุสลิมสุดโต่งเชื่อว่า เพศหญิงเป็นตราบาป ผู้หญิงจะต้องถือพรหมจรรย์จนกว่าจะแต่งงานและผู้ชายเป็นผู้เหนือกว่า คนรักเพศเดียวกันเป็นพวกวิปริต พวกเขาเองเท่านั้นที่เป็นผู้บริสุทธิ์ดีงามหนึ่งเดียวตามคำสอนของศาสนา
3. ทั้งคู่จะกล่าวโทษผู้หญิงเมื่อผู้หญิงตกเป็นเหยื่อการข่มขืน ทั้งคู่เชื่อว่าผู้หญิงไม่ฉลาดพอที่จะตัดสินใจเกี่ยวกับเรือนร่างของตนเองได้
4. คริสเตียนขวาจัดก็เหมือนกับผู้ก่อการร้ายในนามอิสลามที่ต่างรู้สึกว่า ตนจำเป็นต้องลุกขึ้นหยิบอาวุธต่อสู้ เพราะรัฐบาลของเขาไม่สามารถตอบสนองความต้องการของตนได้
5. ทั้งคู่รู้สึกว่าการพูดคุยเป็นการแสดงท่าทีที่อ่อนแอ และการใช้ความรุนแรงเป็นภาษาเดียวที่ศัตรูจะเข้าใจ
6. ทั้งคู่ต้องการให้ใช้คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของตนเสมือนเป็นกฎหมายปกครองดินแดน
7. ทั้งคู่ต้องการให้ประชาชนที่พวกเขารู้สึกว่าเป็นคนบาปถูกเอารัดเอาเปรียบหรือกระทั่งถูกฆ่า
8. ทั้งคู่รู้สึกว่า ความเชื่อที่ว่าความรู้มาจากการคิดอย่างมีเหตุผลจะนำไปสู่ความคิดที่เป็นบาป
9. ทั้งคู่เป็นพวกต่อต้านวิทยาศาสตร์
10. ทั้งคู่คิดว่า ตนสามารถเข้าถึงการหยั่งรู้ที่แท้จริงได้ และโลกนี้มีพันธะที่จะต้องมอบตำแหน่งที่เหนือกว่าคนอื่น ๆ ให้พวกเขา
ต่อไปหากมีเหตุยิงกราดครั้งใหญ่อีก (นี่คือ ‘อเมริกา’ และเราจะต้องเผชิญกับเหตุการณ์เช่นนั้นอีกแน่นอน) บางทีเราอาจจะต้องหยุดทายกันเสียทีว่า คนยิงเป็นมุสลิมหรือคริสเตียน นั่นไม่สำคัญหรอกเพราะมันจะมาจากผู้ที่มีอุดมการณ์ขวาจัดนั่นเอง – อุดมการณ์ที่เกลียดกลัวความเป็นอื่นหรือกลัวคนที่ไม่เหมือนเรา (Xenophobia) และกลัวสูญเสียอำนาจ แล้วเรารู้ได้อย่างไรนะหรือ? ก็เพราะเราไม่ได้เผชิญกับการโจมตีของผู้ก่อการร้ายฝ่ายซ้ายจัดมาตั้งแต่ ค.ศ. 1981 อย่างน้อยก็ไม่ใช่ในประเทศนี้แล้วกัน
ต้นฉบับภาษาอังกฤษ http://news.groopspeak.com/10-ways-right-wing-christians-and-muslim-extremists-are-exactly-the-same/
