รายงานพิเศษ “อันวา : ชบา จะบานที่ปาตานี”

เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม  ทางปาตานี ฟอรั่ม  ร่วมกับ มีเดียสลาตัน  และเพื่อนอันวาทุกวัน  ได้จัดการเสวนาในหัวข้อ “อันวา : ชบา จะบานที่ปาตานี” โดยมีวิทยากร คือ ผศ.ดร.ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี, อับดุลกอฮาร์ อาแวปูเตะ, รอมือละห์ แซเยะ, ซาฮารี เจ๊ะหลง ดำเนินรายการโดย นวลน้อย ธรรมเสถียร

คุณนวลน้อย ธรรมเสถียร ได้กล่าวเริ่มต้นในการเสวนาครั้งนี้  โดยได้กล่าวเริ่มต้นในคดีของอันวาว่า ในวันที่ 1 พ.ค. 2556 ศาลฎีกาอ่านคำพิพากษาให้จำคุกอันวาร์เป็นเวลา 12 ปี ข้อกล่าวหาที่ศาลพิพากษาว่ามีความผิดก็คือ เป็น สมาชิกของ BRN

จากนั้นคุณรอมือละห์ แซเยะ ได้กล่าวถึงความรู้สึกถึงในช่วงที่ได้ไปฟังคำพิพากษา โดยในวันที่ 1 พ.ค. 2556 ต้องเดินทางไปฟังคำสั่งศาล ซึ่งไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะถูกพิพากษาเช่นนี้ เพราะว่าในอุทธรณ์หลุดมาแล้ว แต่มาติดในส่วนของฎีกา

ต่อด้วยคุณอับดุลกอฮาร์ อาแวปูเตะ ได้กล่าวถึงคดีนี้ว่า เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปี 2548 คดีนี้ได้มีการสู้คดีกันมาทั้งสามศาล ประเด็นของคดีนี้จะเป็นไปในลักษณะของการก่อการร้ายทั่วไป กล่าวคือ ทั้งหมดถูกฟ้องในข้อหาการใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายตามมาตรา 113 และสะสมกำลังพล ตระเตรียมอาวุธเพื่อเป็นกบฏตามมาตรา 114 เป็นต้น  ซึ่งในส่วนของคดีลักษณะเดียวกันกับอันวาร์นี้จะมีทั้งสิ้น 11 คน โดยมีการใช้พยานหลักฐานชุดเดียวกัน และมีการสืบพยานในศาลชั้นต้น จะไม่มีการสืบพยานในศาลชั้นอื่นๆ จะมีเพียงการส่งสำนวน ข้อเท็จจริงทั้งหมดจะเป็นสำนวนจากศาลชั้นต้น ในประเด็นของคดีนี้มีมูลเหตุมาจากการฆ่าดาบตำรวจสัมพันธ์ ที่ยะรัง อย่างไรก็ตามสิ่งที่ศาลชี้ว่ามีความผิดนั่นก็คือ การที่เป็นสมาชิกของกลุ่ม BRN

ซาฮารี เจ๊ะหลง ได้กล่าวต่อมาว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับอันวาร์ ขอเรียกว่าเป็น ปรากฏการณ์อันวาร์ โดยอันวาร์เข้ามามีบทบาทในสื่อทางเลือกประมาณปี 51-52 ซึ่งต่อมาอันวาร์ได้ดูแลเว็บไซต์บุหงารายานิวส์ ข่าวสารโดยส่วนใหญ่ของเว็บไซต์ที่อันวาร์ทำอยู่ก็จะเป็นเรื่องราวในพื้นที่ ข้อคิดเห็นจากประชาชน โดยอันวาร์เองจะมีการลงพื้นที่ เพื่อที่จะสัมภาษณ์ชาวบ้าน ทำให้ถูกมองจากฝ่ายความมั่นคงว่าเป็นการนำเสนอสื่อข้างเดียว โดยในวันที่ 30 เมษายน ก่อนที่อันวาร์จะถูกดำเนินคดี อันวาร์ได้นำเสนอในประเด็นของสื่อทางเลือกว่า เป็นข่าวที่ออกมาด้านเดียวนั้น เพราะว่าการทำงานของสื่อทางเลือก สามารถที่จะเข้าถึงประชาชนได้เพียงอย่างเดียว เพราะมีการประสานไปยังเจ้าหน้าที่ แต่ไม่ได้รับความร่วมมือ ไม่ได้รับการสัมภาษณ์

ต่อมา ผศ.ดร.ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี ในส่วนของการสร้างสันติภาพอย่างยั่งยืน วิธีการหรือแนวคิดของประชาสังคมที่เคลื่อนไหวกันอยู่ ถือเป็นการสร้างพื้นที่กลาง พื้นที่ที่ปลอดภัย ที่ทุกฝ่ายทุกกลุ่ม ที่มีความเห็นต่าง ทั้งรัฐ ขบวนการและประชาชน เข้ามาคิดหาทางออกในการแก้ไขปัญหาอย่างอิสระและเท่าเทียมกัน ในกระบวนการสันติภาพที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ ภาคประชาสังคมก็มีน้ำหนัก มีพลังสำคัญในการขับเคลื่อนสิ่งเหล่านี้ ตรงนี้เป็นโอกาสที่เราสร้างขึ้นมา ซึ่งกลุ่มเหล่านี้ต้องเรียกร้องความยุติธรรม โดยความยุติธรรมนั้นเป็นหัวใจของสันติภาพ

ผศ.ดร.ศรีสมภพ ได้กล่าวเพิ่มเติมในประเด็นของการพูดคุยสันติภาพว่า ตอนนี้ทั้งฝ่ายรัฐและขบวนการเอง ยังไม่สามารถที่จะคิดได้ตรงกันระหว่างคนที่ไปนั่งคุยกับคนที่อยู่ในระดับล่าง และเป็นไปได้สัญญาณที่ส่งมาจากการพูดคุยยังไม่ได้ตกลงกันอย่างชัดเจน จะเห็นว่า ยังคงมีเจ้าหน้าที่ยังคงใช้อำนาจปกติ และขบวนการเองยังคงดำเนินการเช่นที่เคยทำ นี้เป็นปัญหาที่เกิดขึ้น ขณะนี้ต้องยอมรับว่าความไม่แน่นอนยังคงที่จะเกิดขึ้น แต่หลักประกันที่จะเป็นตัวชี้วัดว่า กระบวนการสันติภาพจะดำเนินไปอย่างเหมาะสม จำเป็นจะต้องรักษาพื้นที่กลางเอาไว้ และให้ขยายออกไปให้ได้มากที่สุด

ต่อมาคุณรอมือละห์ แซเยะ ได้กล่าวเพิ่มเติมในกรณีคดีอันวาร์ ว่ามีผลกระทบต่อกระบวนการยุติธรรมเป็นอย่างมาก เนื่องจากว่า กระบวนการยุติธรรมที่เป็นวิธีการสุดท้ายไม่สามารถพึ่งพึงได้อีก จะทำอย่างไรให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมกลับมาได้อีก ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ต่อไป เกรงว่าปัญหาจะเพิ่มขึ้น

ต่อมาคุณตูแวดานียา ได้กล่าวว่า ปรากฏการณ์อันวาร์ เป็นบทเรียนที่สำคัญยิ่งสำหรับผู้ที่เดินอยู่บนเส้นทางที่จะให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้วยแนวทางสันติวิธี บทเรียนที่สำคัญอันแรกก็คือ ต้องตระเตรียมความพร้อมที่จะเผชิญกับปรากฏการณ์อันวาร์ โดยส่วนตัวคิดว่า ผู้ที่เคลื่อนไหวในแนวทางสันติวิธีนี้จะไม่โดนเหมือนกับอันวาร์ อาจจะโดนเล่นนอกกติกาแรงกว่าอันวาร์ ก็ได้ เพราะตอนนี้อยู่รัฐอาจจะมองว่า คนเหล่านี้รบกวนบรรยากาศของสันติภาพ ในส่วนอันที่สองต้องหาวิธีการลับ ลวง พราง หากไม่สามารถที่จะทรยศความคิดต่างของตัวเองที่มีอยู่กับรัฐนี้ ก็ต้องหาวิธีการลับ ลวง พราง เพื่อที่จะทำให้รัฐคิดว่า เราไม่ได้คิดต่างจากรัฐ ต่อมาในส่วนที่สามก็คือ กลับตัวกลับใจว่าไม่ต้องการที่จะเปลี่ยนแปลง มอบทุกเรื่องให้เป็นการจัดการจากผู้มีอำนาจเพียงแต่อย่างเดียว ทั้งหมดนี้เป็นบทเรียนจากอันวาร์ที่อยากจะกล่าวถึงแก่ผู้คนข้างนอก

ประเด็นต่อมา ข้อสังเกตส่วนตัวจากปรากฏการณ์อันวาร์ น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการพูดคุยสันติภาพ ช่วงเวลาพิพากษาของศาล เป็นช่วงเวลาที่ประจวบเหมาะกับเหตุการณ์ทางการเมืองในชายแดนใต้ อาจจะเป็นการส่งสัญญาณอะไรบางอย่าง เปรียบดังว่าเอากรณีอันวาร์มาเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู

ต่อมาคุณอับดุลกอฮาร์ อาแวปูเตะ ได้นำเสนอเกี่ยวกับคดีของอันวาร์ว่า มองในแง่ประเด็นของคดี แม้ว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นในปี 2548 ซึ่งในช่วงเวลานั้นกว่าจะได้ประกันตัวมาเป็นเรื่องที่ยากมาก ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีศูนย์ทนายความมุสลิม ต้องให้ฝ่ายปกครองเข้ามาช่วยเหลือ ในการทำคดีความมั่นคงเป็นเรื่องของความขัดแย้งในพื้นที่สามจังหวัด ความรุนแรงในการทำคดีเป็นการใช้ความรุนแรงในระบบ

คุณนวลน้อย ธรรมเสถียร ได้สรุปจากการเสวนาครั้งนี้ว่า เราควรที่จะรักษาพื้นที่ทางการเมืองที่ปลอดภัยที่เราร่วมสร้างกันมา มันน่าจะทำอะไรได้อีกเยอะ เราอย่าโดดเดี่ยวตัวเองและต่อสู้ด้วยสันติวิธี ซึ่งจะได้รับการกะรันตีว่าเราจะปลอดภัยและสามารถได้รับการยอมรับจากคนโดยทั่วไปด้วย