สุขสันต์วันอีด อย่าลืมทำดีแก่คนยากจน

โดย : อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บิน ชาฟิอีย์  (อับดุลสุโก ดินอะ)

ฝ่ายวิชาการโครงการพัฒนาเครือข่ายตำบลสุขภาวะจังหวัดชายแดนใต้

อาจารย์พิเศษมหาวิทยาลัยทักษิณ

ผู้ช่วยผู้จัดการโรงเรียนจริยธรรมศึกษามูลนิธิ

อ.จะนะ จ.สงขลา         

Shukur2003@yahoo.co.uk

http://www.oknation.net/blog/shukur

 

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตากรุณาเสมอขอความสันติสุขจงมีแด่ศาสฑูตมูฮัมมัด   ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีแด่ผู้อ่านทุกท่าน

ไม่วันที่ 18 หรือ  19 สิหาคม ศกนี้ จะเป็นวันอีดิลฟิฏรฺ(ฉลองหลังถือศีลอด) ของชาวมุสลิม
วันอีดเป็นวันสำคัญของประชาชาติมุสลิมทั่วโลกซึ่งมีขึ้นเมื่อ 1400 กว่าปีมาแล้ว ซึ่งจะมีด้วยกัน 2 วัน คือวันอีดิ้ลฟิฏรฺ และวันอีดิ้ลอัฎฮา

โดยท่านศาสนฑูตมูฮัมมัด ได้กล่าวไว้
ความว่า "อัลลอฮฺทรงเปลี่ยนสองวันนี้ (ที่พวกท่านกำลังฉลองอยู่ตามประเพณีอาหรับโบราณ) ด้วยสองวันอันประเสริฐยิ่งกว่า คือ วันอีดิ้ลฟิฏรฺ และวันอีดิ้ลอัฎฮา"

โดยที่ วันอีดิ้ลฟิฏรฺ นั้นจะมีขึ้นหลังจากถือศีลอด ในขณะวันอีดิ้ลอัฎฮาจะเป็นช่วงที่มุสลิมไปทำฮัจญ์ซึ่งจะห่างจากวันอี ดิ้ลฟิฏรฺ สองเดือนสิบวัน

สิ่งที่เราเห็นและทราบเป็นประจำก็คือการปฏิบัติศาสนกิจที่มัสยิดด้วยการ ละหมาด เพื่อขอบคุณพระเจ้าที่สามารถผ่านบดทดสอบได้ตลอดหนึ่งเดือน เป็นการเสริมจิตวิญญาณให้แข็งแกร่งเพิ่มขึ้น แต่มีผู้คนน้อยมากที่ทราบว่าในวันดังกล่าวยังเป็นวันสังคมสงเคราะห์ของชาว มุสลิมทั่วโลก ซึ่งคนยากคนจนตั้งตารอคอยนับปี  ในขณะที่ปีนี้จังหวัดชายแดนภาคใต้ตลอดเดือนรอมฎอนสื่อนำเสนอแต่ระเบิด ความรุนแรงแม้แต่ช่วงวันอีดหน่วยข่าวกรองก็ออกมาเตือนให้ระวังเหตุร้าย ทำให้สิ่งดีๆตลอดทั้งเดือนจึงไม่ค่อยถูกเสนอ

สำหรับเรื่องดีๆอีกเรื่องที่ควรถูกตีแผ่คือการสังคมสงเคราะห์ของชาว มุสลิมต่อคนยากจน กล่าวคือ ในคืนสุดท้ายหรือช่วงเช้าของวันอีด(ฮารีรายอ)  จะเห็นชาวบ้านจำนวนมากจะออกจากบ้านไปหาคนยากจนหรือเจ้าหน้าที่มัสยิดเพื่อ จ่ายซะกาตฟิฏเราะห์

คำว่า ซะกาตฟิฏเราะฮฺ (ทานบังคับ)  คือ ซะกาตที่จำเป็นจะต้องจ่ายอันเนื่องจากหมดภาระถือศีลอดในเดือนรอมฎอน ซึ่งจำเป็นแก่มุสลิมทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ชายหรือหญิง เพียงแต่ผู้ที่จะเป็นผู้จ่ายนั้นจะต้องเป็นหัวหน้าครอบครัว และผู้อุปการะผู้อื่นโดยจ่ายเพื่อตัวเขา และเพื่อคนที่อยู่ในครอบครัวทุกคน และคนที่ต้องรับผิดชอบด้วย
สำหรับปริมาณที่ต้องจ่าย คนละ 1 ศออฺ (ในภาษาอาหรับ) หรือประมาณเกือบ 4 ลิตร ของอาหารหลักในท้องถิ่นนั้น ๆ หรือคิดเป็นเงินประมาณ 80 บาท เช่น ในประเทศไทยคือ ข้าวสาร เป็นต้น โดยจะจ่ายให้แก่บุคคลคนยากจน  

 นอกจากซะกาตฟิฏเราะฮฺแล้วยังมีซะกาตทรัพย์สิน ที่พ่อค้า  นักธุรกิจนิยมจ่าย 2.5 เปอร์เซ็นต์ จากทรัพย์สินในช่วงนี้ด้วยเช่นกัน ไม่นับรวมบริจาคทานอื่นๆที่ให้กับเด็กๆ สตรีหม้าย  เด็กกำพร้าและบุคคลทั่วไป

ดังนั้นจะเห็นได้ว่า วันอีด จะเป็นวันสังคมสงเคราะห์ให้กับสังคมซึ่งถือเป็นการแบ่งเบาภาระรัฐได้อย่างมาก อันเนื่องมาจากซะกาตจะทำหน้าที่อุดช่องว่างระหว่างรายได้ในสังคมให้แคบลงใน ที่สุด  

กลุ่มคนที่มีรายได้ต่ำสามารถตอบสนองความจำเป็นขั้นพื้นฐานของตนโดยผ่านการ จัดสรรรายได้  ซึ่งซะกาตทำให้เกิดการหลีกเลี่ยงการสะสมทรัพย์สิน  ทรัพย์สินจะหมุนเวียน ไม่สะสมในมือของคนไม่กี่คน แต่ต้องกระจายออกไปเพื่อทุกฝ่ายที่มีความจำเป็นในทรัพย์สินนั้นได้มีโอกาส สัมผัสถึงความสุขร่วมกัน 

 ในขณะเดียวกันผู้รับซะกาต จะทำให้เขามีกำลังซื้อที่มากขึ้น โดยสิ่งนี้ในแง่เศรษกิจแล้ว จะเป็นอุปสงค์ต่อสินค้าในตลาดที่จะเพิ่มขึ้น  อุปสงค์ส่วนเกินจะเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตสินค้าเพิ่มขึ้น  ทำให้เกิดมีการลงทุนเพิ่มขึ้น  ตลอดจนเปิดโอกาสให้การว่าจ้างทำงานมากขึ้น  อุปสงค์ต่อแรงงานก็จะเพิ่มขึ้น มาตรฐานการครองชีพในระยะยาวก็จะดีขึ้น 

ส่วนผลที่มีต่อผู้จ่ายซะกาต เป็นในแง่ของประโยชน์ในรูปของรายได้และกำไรที่เพิ่มขึ้น  ซึ่งเป็นผลจากการเพิ่มผลผลิตและรายได้ของรัฐ ด้วยเหตุดังกล่าว จำนวนซะกาตของผู้จ่ายซะกาตก็จะเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน  สำหรับผลที่มีต่อรัฐ คือ การได้รับผลประโยชน์ที่สูงกว่า  กล่าวคือ  ส่งผลให้ช่องว่างระหว่างคนรวยและคนจนแคบลงทำให้ลดปัญหาสังคมที่จะตามมา

 หวัง ว่าศาสนธรรมและสันติธรรมไม่ใช่เป็นเพียงเป้าหมายเท่านั้น แต่เป็นวิถีทางที่สำคัญในการอยู่ร่วมอย่างสันติ และขอดุอาอ์(พร)จากอัลลอฮซุบฮานะฮุ วะ ตะอาลาโปรดทรงรวมพลังของพวกเราให้อยู่บนทางนำ และรวมหัวใจของพวกเราอยู่บนความรักฉันท์พี่น้อง รวมทั้งขอให้ความมุ่งมั่นของพวกเราอยู่บนการงานที่ดี

ขอให้พระองค์ทรงทำให้วันนี้ของพวกเราดีกว่าเมื่อวาน ให้พรุ่งนี้ของพวกเราดีกว่าวันนี้ แท้จริงพระองค์นั้นเป็นผู้ทรงได้ยินและทรงอยู่ใกล้ และนำความสงบสุขสู่จังหวัดชายแดนใต้ รวมทั้งประเทศชาติทั้งมวลด้วยเทอญ สุขสวัสดี...วันตรุษอีดิ้ลฟิฏรฺ ฮิจเราะห์ศักราชที่ 1433...อามีน