แนวโน้ม 5 ประเด็น หลังเหตุการณ์ความรุนแรงในอังการาและเบอร์ลิน
แนวโน้ม 5 ประเด็น หลังเหตุการณ์ความรุนแรงในอังการาและเบอร์ลิน
PATANI FORUM
สถานการณ์การเมืองโลกที่เหมือนอยู่บนหน้าผาสูงชันและเกิดกระแสลม(ขวา)แรงพร้อมที่จะกระชากร่างกายลงเหวลึกได้ หากไม่มีหลัก(การ)ยึดอันเข้มแข็งเพียงพอ ที่จะพยุงให้ชีวิตผ่านคลื่นลมแรงนี้ได้
หลังจากเหตุการณ์ยิงฑูตรัสเซียในกรุงอังการา ตุรกี และเหตุการณ์คนร้ายใช้รถบรรทุกชนฝูงชนในเทศกาลคริสมาสต์ในกรุงเบอร์ลิน เยอรมัน นับว่าเป็นเรื่องที่มีความน่าสนใจยิ่งในช่วงปลายปี 2016 ที่ผ่านมา แน่นอนในปีนี้จะเป็นปีแห่งการท้ายยิ่งต่อประเด็นเรื่องความรุนแรงและมนุษยธรรม
วลีที่ว่า "เด็ดดอกไม้เพียงหนึ่งดอกสะเทือนถึงดวงดาว" เป็นวลีขยายความถึง "ทฤษฏีไร้ระเบียบ" (Chaos Theory) ซึ่งอธิบายว่าการทำลายธรรมชาติแม้เพียงเล็กน้อยจะส่งผลกระทบอันใหญ่หลวงต่อโลกของเรา
หากทว่าครั้งนี้ อาจจะกล่าวได้ว่า "สงครามในซีเรียสะเทือนถึงแผ่นดินทั่วยุโรป" และมันจะสืบเนื่องไปอีกยาวนาน "หากไม่หยุดสงครามในซีเรีย" และปีนี้อาจจะทำให้กลุ่มนิยมฝ่ายขวาในยุโรปเติบโตและโผล่หน้าอย่างเปิดเผยในสาธารณะมากขึ้น
ปาตานีฟอรั่มเห็นว่าเป็นส่ิงที่น่าสนใจยิ่งและเสนอสรุปประเด็นสั้นๆ เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนต่อไป ด้วยประการฉะนี้จึงเสนอออกมาเป็น 5 ประเด็นหลัก แน่นอนไม่มีใครทราบว่าอะไรจะเกิดขึ้น... แต่เราขอเปิดประเด็นปีนี้ด้วยเรื่องของอนาคตที่กำลังมาจะมาถึง...
1. ทำให้กลุ่มนิยมการเมืองฝ่ายขวา(ต่อต้านผู้อพยพ)ในยุโรปมีบทบาทมากขึ้น และส่งผลโดยตรงต่อนางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ที่มีนโยบายรับผู้อพยพจากสงคราม ไม่มีใครปฎิเสธว่า ผู้นำหญิงที่แกร่งเหมือนเหล็ก(เยอรมัน) คือเป็นเสาหลักของระบบประชาธิปไตยในแผ่นดินยุโรป อังเกลา แมร์เคล คือผู้ยืนยันนโยบายเปิดรับผู้อพยพในประเทศเยอรมันและผลักดันอียูให้เงินและสนุบสนุนตรุกีในจัดการเรื่องผู้อพยพที่อยู่ในประเทศตุรกีเพื่อเป็นการไม่ให้เข้ามาในยุโรป ภาระกิจการรับมือผู้อพยพจากสงครามในซีเรีย ถือว่าเป็นภาระกิจอันเปราะบางต่อคะแนนเสียงนิยมทางการเมืองของเธอ แต่เธอก็ยืนยัน จนเกิดการประท้วงใหญ่ในเยอรมันเพื่อต่อต้านผู้อพยพ แต่เธอยืนยันว่านี้คือนโยบายรัฐบาลภายใต้การผู้นำของเธอ ที่ผ่านระบบรัฐสภา
2. ทำให้สังคมยุโรปต่อต้านนโยบายการรับผู้อพยพมากขึ้น เนื่องจากข่าวการใช้ความรุนแรงของผู้อพยพที่อาศัยในยุโรป ไม่ว่าจะเป็นการข่มขืนที่ชาวอพยพได้เป็นผู้ต้องสงสัย และแน่นอนการระเบิดครั้งล่าสุด ก็เป็นผู้อพยพจากตูนิเซีย ด้วยเหตุนี้อาจจะทำให้พรรคการเมืองหลายพรรค โดยเฉพาะพรรคการเมืองนิยมขวา อาจจะใช้นโยบายต่อต้านผู้อพยพในการหาเสียง
3. กองทัพรัสเซียมีความชอบธรรมในสงครามซีเรียมากขึ้น และมีอำนาจต่อรองมากขึ้น แม้จะมีการประท้วงจากกลุ่มมุสลิมทั้งในซีเรียและทั่วโลก สงครามยังคงดำเนินต่อไป ไม่ว่าอย่างไร รัสเซียถือว่าเป็นประเทศที่ทำสงครามในซีเรียตั้งแต่เริ่มต้นและจนถึงปัจจุบัน ด้วยภูมิศาสตร์รัฐศาสตร์แห่งแผ่นที่โลกของประเทศซีเรีย ย่อมมีความสำคัญต่อรัสเซียโดยเฉพาะเรื่องทรัพยากรน้ำมันและการขยายอิทธิพลทางการทหารของรัสเซียในตะวันออกกลาง
4. เกิดกระแสความหวาดกลัวอิสลาม (Islamophobia) มากขึ้น ทำให้มุสลิมในยุโรปจะประสบปัญหาในการดำเนินชีวิต และอาจถูกทำร้ายได้ โดยเฉพาะผู้หญิงมุสลิมที่มีสัญลักษ์ทางศาสนาคือการคลุม “ฮิญาบ" ของผู้หญิงมุสลิม
5. โอกาสที่ประเทศตรุกีจะเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) ล่าช้าและยากมากขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้มีการกีดกั้นมาโดยตลอด นักวิชาการและนักวิเคราะห์ผู้เชี่ยวชาญประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างตรุกีและยุโรปเห็นตรงกันว่า การที่ตุรกีไม่ได้เข้าเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป เพราะตรุกีเป็นประเทศมุสลิม ถือว่าเป็นสาเหตุหลักที่ต้องเจอมาตราการกีดกั้นหลายประการตลอดที่ผ่านมา อาจเป็นไปได้ยากที่จะได้รับการยอมรับจากกลุ่มสหภาพยุโรป แม้ว่าจะมีเศรษฐกิจที่เข้มแข็งกว่าหลายๆประเทศในยุโรปก็ตาม