การต้านความรุนแรงในนามของมุสลิม
บทบรรณาธิการ
วารสาร ปาตานีฟอรั่ม ฉบับที่ 15
การต้านความรุนแรงในนามของมุสลิม
(1)
ในฟากฝั่งของรัฐสมัยใหม่ที่อาณาบริเวณครอบคลุม พื้นที่ 3 ทวีป อย่างประเทศตรุกี ที่เป็นความหวังของโลกมุสลิมสมัยใหม่ ท่าทีและการแสดงออกต่อเรื่องการก่อการร้ายตั้งแต่กรุงปารีสและบรัสเซสซ์ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่มีความสำคัญยิ่ง
สำหรับนายกรัฐมนตรีตรุกี ศ.ดร.อะหมัด ดาวุดโอฮ์ลู ได้ออกมาประกาศยืนเคียงข้างผู้คนในบรัสเซลส์ และจะร่วมต่อต้านการก่อการร้ายถึงที่สุด เพราะการไล่ฆ่าประชาชน วางระเบิด ไม่อาจจะทำลายอำนาจรัฐที่ใดในโลกนี้ได้ ในทางกลับกันมีแต่จะสร้างความชอบธรรมให้รัฐในการใช้ความรุนแรงในการปราบปราม ผ่านนโยบายต่างๆโดยเฉพาะในแถบประเทศยุโรป ที่ต้องขอความเห็นชอบจากรัฐสภา
จำได้ว่าหลังจากเหตุการณ์ความรุนแรงที่ อังการาและอิสตันบลู นายกรัฐมนตรีตุรกี ก็ไม่เคยออกมาเรียกร้องให้ทางโลกเห็นใจตุรกี หรือประชดประชันสังคมโลกว่าทำไมไม่ pray for turkey มีแต่จะเอื้ออำนวยและแสดงความเห็นอกเห็นใจความรุนแรงที่คร่าชีวิตผู้คน ตั้งแต่ปารีสถึงบรัสเซสซ์ ณ. กรุงปารีส นายกรัฐมนตรีตุรกี ก็ไปร่วมเดินบนท้องถนนกับผู้นำยุโรปด้วย ท่าทีแบบนี้ต่างหากที่มุสลิมควรจะออกไปร่วมทุกข์และปฏิสัมพันธ์ร่วมกับผู้คน เพื่อให้คนในสังคมได้รู้จัก และเป็นเพื่อนกันทางด้านมนุษยธรรม มากกว่าวิธีประชดโลกที่ทำให้ห่างเหินกัน
ปฎิกิริยาต่อความรุนแรง ชี้ให้เห็นความแตกต่างทางด้านความรู้สึกเกี่ยวกับ "สำนึกร่วมของสังคม" (Social Conscience) ต่อพื้นที่ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ไม่ว่าที่ใดในโลก
ความรู้สึกข้ามพรมแดน อาจจะเกิดขึ้นจากชุดประสบการณ์และสื่อมวลชนที่รายงานข่าวเกี่ยวกับพื้นที่(space) ความรุนแรง เช่น ปารีส บรัสเซลส์ อาจจะมีความรู้สึกร่วมมากกว่าเหตุการณ์ความรุนแรงที่ อังการา อิสตันบลู ฯลฯ ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติธรรมดา ที่ควรทำความเข้าใจมากกว่าการไปก้นด่าผู้คน ทีมีความรู้สึกต่อเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่แตกต่างกัน เพราะความรู้สึกร่วมและความเห็นอกเห็นใจบังคับใครกันไม่ได้ ไม่จำเป็นต้องให้โลกมา Pray for Turkey แต่มุสลิมควรปฎิบัติงานทางด้านมนุษยธรรมเชิงรุกและหนุนเสริมให้เกิดความเป็นธรรมทางสังคมมากกว่า
(2)
Médine Zaouiche แร็ปเปอร์มุสลิมในฝรั่งเศส
เมดิน คือ แร็ปเปอร์มุสลิมผู้โด่งดังในฝรั่งเศส หลังจากเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงในฝรั่งเศส "เมดิน" ได้ออกมาร้องเพลงเพื่อให้กำลังใจเยาวชนมุสลิมในฝรั่งเศสและร่วมทำกิจกรรมกับเยาวชนมุสลิม เพื่อยับยั้งการใช้ความรุนแรง และเมดินเองก็โด่งดังมาก่อนหน้านี้ ตัวเขาเองทำงานร่วมกับชุมชนและก่อตั้งทีมกีฬาขึ้นมา
ตัวเขาเองได้พบเจอเยาวชนมุสลิมหลายคน ที่พยายามไปร่วมขบวนไอซิส และเขาทราบดีว่าวิธีการของเขาจะทำให้กลุ่มไอซิสไม่พอใจ แต่เขาบอกว่านี่คือความตั้งใจของเขา เมดินยังทำงานร่วมกับ ฎอริค รอมฎอน นักวิชาการทางด้านปรัชญาอิสลาม
หลังจากเกิดเหตุการณ์ชาลี แอ๊บโด เขาเองก็ได้เดินทางไปให้กำลังใจเหยื่อจากเหตุการณ์ความรุนแรง ที่เกิดจากกลุ่มที่อ้างว่าเป็นขบวนการไอซิส และหลังจากเหตุการณ์ความรุนแรงที่ปารีสทำให้เยาวชนมุสลิมฝรั่งเศสถูกจับตามองจากรัฐบาลอย่างมาก เมดินก็ทำหน้าที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลเรื่องสิทธิและเสรีภาพที่บังคับไม่เสมอภาคและละเมิดสิทธิต่อเยาวชนมุสลิม สำหรับงานเพลงของ เมดิน ที่โด่งดังคือ "Don't panik”
สองกรณีข้างต้น คือเป็นแสดงออกเชิงรุกในนามของมุสลิมที่ปฎิเสธความรุนแรง ด้วยการเสนอทางเลือก และกอบกู้ให้มุสลิมมีทางเลือกมากกว่าการประนามและด่าทอ แต่หมายถึงการลงมือปฎิบัติด้วยทางเลือกใหม่ๆ ที่จะช่วยให้ภาพมุสลิมค่อยหลุดไปจากการความรุนแรง